1.ทอร์ (Thor)

ในเทพปกรณัมนอร์ส ทอร์ เป็นเทพถือค้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับสายฟ้า ฟ้าร้อง พายุ ต้นโอ๊ก พละกำลัง การคุ้มครองมนุษยชาติ และตลอดจนการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ การรักษาและความอุดมสมบูรณ์ เทพที่มาจากกำเนิดเดียวกันในเทพปกรณัมเยอรมันและเพเกินที่กว้างกว่า เป็นที่รูจักกันในภาษาอังกฤษโบราณว่า และภาษาเยอรมันโบราณเขตเหนือว่า Donar ซึ่งกำเนิดจากภาษาโปรโตเยอรมัน ทอร์สเป็นเทพที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างสำคัญตลอดประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกของชาวเยอรมัน จากการยึดครองดินแดนเยอรมาเนียของโรมัน ไปจนถึงการขยายชนเผ่าในสมัยการโยกย้ายถิ่นฐาน ไปจนถึงการได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคไวกิ้ง เมื่อ ในการเผชิญกับกระบวนการเผยแผ่ศาสนาคริสต์เข้าไปในสแกนดิเนเวีย สัญลักษณ์ค้อนมจอลนีร์ ของพระองค์ ถูกสวมใส่เป็นการท้าทายและชื่อตัวของนอร์สเพเกินซึ่งมีชื่อของเทพเจ้าเป็นพยานต่อความนิยมของเขา เมื่อย่างเข้าสู่สมัยใหม่ ทอร์ยังได้การยอมรับต่อไปในตำนานพื้นบ้านชนบททั่วภูมิภาคเยอรมัน ทอร์มักอ้างถึงบ่อยครั้งในชื่อสถานที่ ในวันประจำสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ("วันของทอร์") ปรากฏนามของพระองค์ และชื่อซึ่งมาจากยุคเพเกินที่มีนามพระองค์นั้นยังมีใช้กันอยู่จวบจนปัจจุบันทอร์เป็นหนึ่งในสิบสองสำคัญของเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย เป็นเทพแห่งสายฟ้า ทอร์เป็นบุตรของเทพเจ้าโอดิน และจอร์ดน่ง ยักษ์แห่งแผ่นดิน

2.โอดิน

โอดิน เทพเจ้าสูงสุดของยุโรปเหนือ เทพเจ้าแห่งสายฟ้าซึ่งมีหอกกุงเนียร์เป็นอาวุธ เมื่อได้รับคำทำนายเกี่ยวกับแร็กนาร็อก และรู้ว่าไม่สามารถหยุดยั้งได้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฝ่ายตนได้รับชัยชนะ โดยการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆมากมายเพื่อหาความรู้ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าสำหรับชาวไวกิ้งแล้วความรู้ถือเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และสำคัญเพียงใด โอดินถึงกับยอมแลกดวงตาข้างหนึ่งเพื่อแลกกับการได้ดื่มน้ำพุแห่งความรู้ ซึ่งทำให้โอดินมีอำนาจพิเศษรวมถึงสามารถอ่านอักขระรูนที่ไม่มีผู้อื่นอ่านได้ พาหนะของโอดินเป็นม้าชื่อสเลปไนร์ซึ่งตำนานกล่าวว่ายามวิ่งจะเร็วมากจนดูเหมือนมีแปดขาและสามารถวิ่งไปได้ทั้งบนสวรรค์ โลกและมหาสมุทร โอดินตระเวนไปพบกับเหล่าผู้ทำนายและคนแคระ ผูกมิตรกับเหล่าวานิร์ ในคำทำนาย โอดินจะถูกกลืนกินโดยหมาป่าเฟนริล์

3.โลกิ

โลกิ (อังกฤษ: Loki Laufeyjarson) เป็นเทพเกเรในเทพปกรณัมนอร์ส โลกิมีความขี้เล่นและซุกซน ในช่วงแรกนั้นโลกิได้ช่วยเหลือเหล่าเทพแห่งแอสการ์ดในการต่อสู้กับเหล่ายักษ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความซุกซนของโลกิก็ยิ่งกลายเป็นความโหดร้ายยิ่งขึ้น เทพโลกิมีบุตร 3 ตน คือ หมาป่าเฟนริล์ งูยักษ์มิดกาดโซรุม และเฮล เทวีแห่งอาณาจักรคนตาย ในวันแร็กนาร็อก วันสงครามสิ้นโลก บุตรทั้ง3 ของโลกิจะมีส่วนร่วมต่อสู้ในสงครามด้วย โลกิยังเป็นผู้ให้กำเนิดม้าสเลปนิร์ของโอดิน โลกิเป็นผู้สังหารบัลเดอร์ เทพแห่งความสุข โดยใช้กิ่งของต้นมิสเซิลโท ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยสาบานว่าจะไม่ทำร้ายบัลเดอร์ ทำเป็นลูกดอกแล้วหลอกให้เทพฮอดผู้ตาบอดขว้างใส่บัลเดอร์ และเมื่อเทพเฮลมอดได้ไปตกลงกับเฮล ซึ่งจะยอมให้บัลเดอร์กลับจากยมโลกถ้าทุกชีวิตบนโลกร่ำไห้แก่บัลเดอร์นั้น นางยักษิณี ทอค ปฏิเสธที่จะร่ำไห้ตามคำขอร้องของแอนซัส ผู้ส่งสาร ซึ่งเชื่อว่าทอคนั้นก็คือโลกิปลอมตัวมานั่นเอง ซึ่งเหตุการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกิเป็นศัตรูกับเหล่าเทพแห่งแอสการ์ดและถูกจับล่ามโซ่ไว้จนถึงวันแร็กนาร็อก

4.Fenrir

ในตำนานเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย หมาป่าเฟนรีร์ เป็นหมาป่าขนาดมหึมา มีตัวตนอยู่ในบทกวีเอ็ดดา (Poetic Edda) ที่เรียบเรียงในคริสต์ศตวรรษที่ 13 จากต้นฉบับโบราณ และร้อยแก้วเอ็ดดา (Prose Edda) และ ฮีมสกรินก์กา (Heimskringla) ที่เขียนขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ทั้งในบทกวีเอ็ดดาและมหากาพย์เอ็ดดาเฟนรีร์เป็นหนึ่งในบุตรของโลกิ เป็นบิดาแห่งหมาป่าสกอลล์ และฮาตี เป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิดวันแร็กนาร็อก

5.เฟรยา

ในเทพปกรณัมนอร์ส เฟรยา เป็นเทพีแห่งความรัก, ความงาม, ความอุดมสมบูรณ์, ทอง, เซย์ท , สงคราม, และความตาย เฟรยาเป็นเจ้าของสร้อยไบรซิงกาเมน , ขี่รถลากที่เทียมแมวสองตัว, หมูป่าฮีลดีสวีนี , เสื้อคลุมขนเหยี่ยว มีโอเดอร์เป็นสามี มีลูกสาวสององค์คือ นอส และ เจอเซมิ มีเฟรย์เป็นพี่ชาย ร่วมบิดา (นเยิร์ด) และมารดา (น้องสาวของนจอร์ด) เฟรยาเป็นเทพีในวงศ์วาเนอร์ ชื่อในปัจจุบันประกอบด้วย Freya, Frejya, Freyia, Freya, Frejya, และ Freia ซึ่งมีรากภาษามาจากคำว่า Freyja ในนอร์สโบราณ

6.วาลคีรี

ในตำนานนอร์ส วาลคิรี เป็นเทพธิดาที่รับใช้ โอดินโดยมีหน้าที่นำนักรบที่ตายในสงครามไปที่ วัลฮัลลา (Valhalla) เพื่อพบกับโอดิน และมาเป็น Einherjar สู้ศึกในสงครามแร็กนาร็อก สงครามสิ้นโลกระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ ในทางศิลปะ วาลคิรีมักจะถูกกล่าวถึงในสัญลักษณ์ของความสวยงาม โดยจะมีลักษณะนางฟ้าหญิง สวมหมวกนักรบถือหอกและขี่บนหลังม้าที่มีปีก วาลิรีนั้นสามารถแปลงร่างเป็นหงส์ได้ วาลคิรีนั้นสามารถแต่งงานกับมนุษย์ได้ แต่นั่นจะทำให้เสียอำนาจวิเศษของเทพธิดาไป

7.เฮล

เฮล หรือ เฮล่า ในตำนานเทพปกรณัมของนอร์ส เป็นเทวีแห่งอาณาจักรคนตาย เฮลเป็นบุตรีของโลกิ และเป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิดวันแร็กนาร็อกขึ้นตามคำทำนาย โอดินจึงกักขังเฮลไว้ในอาณาจักรแห่งคนตาย (นรก หรือนิลฟ์ไฮม์) และคอยรับวิญญาณของผู้ที่ไม่ได้ตายจากสมรภูมิ ในวันแร็กนาร็อก เฮลจะไม่มีส่วนร่วมโดยตรงในวันนั้น แต่บรรดาคนตายของนางจะเข้าร่วมกองทัพของโลกิและพวกยักษ์ด้วย ส่วนคนที่ตายในสมรภูมิจะไปอยู่ในหอวัลฮัลลาบนแดนเทพ เพื่อรอวันเข้าร่วมสงครามในวันแร็กนาร็อก

8.อีดุนน์

ในเทพปกรณัมนอร์ส อีดุนน์ เป็นเทพีในด้านแอปเปิลและความเยาว์วัย โดยอีดุนน์ได้ปรากฏใน Prose Edda โดยในนิยายอีดุนน์ได้ถูกล่อลวงโดยโลกิให้ออกจากแอสการ์ดไปยังป่าแห่งนึ่งซึ่งโลกิสัญญาว่าจะมีแอปเปิลที่น่าสนใจ และเมื่ออีดุนน์เข้าไปในป่าได้ถูกไทอาซีซึ่งแปลงร่างเป็นอินทรีย์ได้โฉบตัวอีดุนน์กลับไปที่บ้านของเขา เมื่ออีดุนน์ได้ออกจากแอสการ์ด เทพหลายองค์ได้แก่ตัวลง และเรื่องราวไปถึงโลกิที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบพาตัวเธอกลับมาที่แอสการ์ด โลกิได้แปลงร่างเป็นเหยี่ยวและไปหาตัวเธอที่บ้านของไทอาซี โดยโลกิได้แปลงร่างอีดุนน์เป็นเมล็ดถั่วและนำเธอกลับสู่แอสการ์ด ซึ่งเมื่อไทอาซีได้ทราบเรื่อง ได้โกรธเกรี้ยวและไล่ตามโลกิไป โดยเมื่อไทอาซีไล่ถึงแอสการ์ด ขนอินทรีย์ของไทอาซีได้กลายเป็นไฟ และเทพเจ้าได้ฆ่าเขาลง

9.สเลปนีส

สเลปนีร์ ปรากฏในตำนานเทพเจ้านอร์ส เป็นม้า 8 ขา เป็นของเทพโอดิน ลูกของโลกิและสวาดิฟารี ได้รับการบรรยายว่าเป็นม้าที่ดีที่สุด และในบางครั้งเมื่อขี่มันจะนำไปสู่ตำแหน่งของเฮล

10.ไฮม์คัล

เทพอารักษ์ดินแดนเทพแอสการ์ด หรือที่รู้จักกันให้เทพอารักษ์ผู้เฝ้าสะพานไบฟอร์สแห่งแดนเทพ เคยมีอีกชื่อหนึ่งในฐานะร่างแปลงของมนุษย์ว่า ริก
Pumin Jantachom. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ตำนานเรื่องราวของ 10 เทพเจ้านอร์ส ที่คนรู้จักดี

>> <<